พีร์ พงศ์พิพัฒนพันธุ์
เป็นที่รู้กันเป็นอย่างดีว่า เนวาดา เป็นรัฐหนึ่งในอเมริกาที่เปิดให้มีการค้าขายกัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นมันได้พลอยทำเมืองสำคัญของรัฐนี้ ได้แก่ ลาสเวกัส ได้รับอานิสงส์จากธุรกิจค้ากัญชาไปด้วย กอรปกับเมืองนี้ เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเนวาดาอยู่แล้ว เท่ากับกัญชาเป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนเมืองนี้มากขึ้นไปอีก เข้าล็อคนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองลาสเวกัสเป็นอย่างดี เมื่อก่อนนักเที่ยวจากต่างเมืองมาเมืองนี้มักถามหา pot คือ กัญชา จากคนขับแท็กซี่หรือคนท้องถิ่น เดี๋ยวนี้ไม่ต้อง พวกเขาสามารถหาซื้อได้จาก shop หรือร้านทั่วไป
รัฐเนวาดายังประกอบไปด้วย แวสโช เคาน์ตี้ (Washoe County) เป็นที่ตั้งของเมืองใหญ่ มีบ่อนพร้อมสรรพอย่าง รีโน่ (Reno) เป็นเมืองที่อยู่ตอนบนของรัฐเนวาดา และเมืองนี้กำลังจะมีประชากรเกินจำนวน 4 แสนคน ตอนนี้รัฐบาลท้องถิ่นยังอนุญาตให้เปิดธุรกิจซ่องโสเภณีได้ แต่ผมคาดว่า ในอีกไม่ช้าท้องถิ่นจะไม่อนุญาตให้เปิดซ่องอีกต่อไป
เป็นเรื่องทางกฎหมาย และเป็นกระบวนการแต่ละก้าวของการพัฒนาเมือง การออกใบอนุญาตเปิดซ่องในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไป บ้านเมืองเจริญขึ้น ไม่จำเป็นต้องใช้ซ่องหรือธุรกิจเซ็กส์เป็นจุดขายอีกต่อไป
เดือนกรกฎาคม ปี 2004 บางเค้าน์ตี้ ได้แก่ แวสโช เคาน์ตี้, คลาร์ค เคาน์ตี้ , ดักแกลส เคาน์ตี้ (Douglas County) และ ลินคอล์น เคาน์ตี้ (Lincoln County) ได้ออกฎหมายท้องถิ่นของแต่ละเค้าน์ตี้ ไม่อนุญาตให้เปิดซ่องอีกต่อไป จึงคงเหลือ 11 เค้าน์ตี้ที่ยังเปิดอนุญาตอยู่ แต่ก็ประกอบไปด้วยหลากหลายเงื่อนไข และข้อจำกัดที่รัดกุมตามลักษณะพื้นที่นั้นๆ ของแต่ละเคาน์ตี้
ส่วนใบอนุญาตเป็น “คุณโส” หรือโสเภณี จะให้กับหญิงที่อายุไม่ต่ำกว่า 21 ปี เว้นแต่ สตอเรย์ เคาน์ตี้ (Storey County) และ ลีออน เคาน์ตี้ (Lyon County) ที่ให้ใบอนุญาตกับหญิงอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
กฎหมาย ของรัฐเนวาดายังบังคับให้ โสเภณีที่ลงทะเบียน และกำลังทำงานในซ่อง ต้องไปตรวจโรคติดต่อจากเพศสัมพันธ์ทุกสัปดาห์ และบังคับให้ผู้ค้บริการต้องไปตรวจเลือดเพื่อเช็คเชื้อเอดส์ (HIV) ประจำทุกเดือน
ขณะเดียวกันเจ้าของซ่องต้องรับผิดชอบหากลูกค้าเกิดติดเอดส์ขึ้นมา ภายหลังนำโสเภณีคนที่ลูกค้ามีเพศสัมพันธ์ด้วยไปตรวจแล้วพบเชื้อเอดส์ ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการจากซ่องจะถูกบังคับให้ “ใส่ปลอก”ตอนมีเพศสัมพันธ์ แม้แต่การสำเร็จความใคร่ผ่านปาก (Oral Sex) ก็ตาม แน่นอนสุด คือการมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า เธอต้องใช้มันทุกครั้งไป
ซ่องที่เมืองปาห์รัมพ์ ในไนเค้าน์ตี้ (Nye county) ที่เป็นที่นิยมของลูกค้าจากลาสเวกัส ได้แก่ ซ่องเชอรี่ แรนช์ (Sheri’s Ranch ) และ ซ่องชิกเค่น แรนช์ (Chicken Ranch) เชอรี่แรนช์ เป็นซ่องใหญ่สุด และโสเภณีค่าตัวสูงที่สุด ส่วนจะชาร์จค่าตัวกับลูกค้าจำนวนเท่าไร ขึ้นอยู่กับการตกลงหรือดีลระหว่างลูกค้า และผู้ใช้บริการที่จะต้องคุยกันเอาเอง
ในฐานะคนเดินทางผ่านทะเลทรายเนวาดาและ Inyo county เขตติดต่อฝั่งแคลิฟอร์เนียตะวันออก ผมและเพื่อนลองแวะสอบถามรายละเอียดที่เชอรี่และชิกเค่น แรนช์ วันหนึ่งช่วงหน้าหนาว “มาม่าซัง” ของซ่องทั้งสองบอกเหมือนกันว่า ไม่สามารถบอกค่าตัวผู้หญิงได้ เราดูแล้วราคาไม่น่าจะถูก อย่างน้อยเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ ควรมีเงินอยู่ในกระเป๋า 1,000 เหรียญเป็นอย่างต่ำ
“ดีลค่าตัว”ผู้หญิงที่ว่า ลูกค้าจะต้องไปเจรจาตกลงกับคุณเธอกันเอาเองแบบสองต่อสอง โดยไม่มีบุคคลคนที่สามร่วมด้วย หลังจากที่ตกลงราคากันได้แล้ว ต้องบอกเจ้าหน้าที่ด้านการเงินของซ่องให้ทราบ นับเป็นการทำความตกลง ตามเมนูรายการของแต่ละซ่อง เหมือนกับการสั่งอาหารในร้านอาหาร หากว่าลูกค้าจะเพิ่มไข่ดาว ไข่เจียว ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มประมาณนั้น
การขายเซ็กซ์ ของซ่องที่เมืองปารัมพ์ก็เช่นเดียวกัน “คุณโส” เธอย่อมพยายามที่จะขาย “ส่วนเพิ่มไข่ดาว” ให้ได้ เพื่อดึงเงินจากกระเป๋านักเที่ยวให้ได้มากที่สุด
“ส่วนเพิ่มไข่ดาว” ที่ว่า มีอะไรบ้างนั้น นอกเหนือจากการอาบ อบ นวดแล้ว หากให้อธิบายย่อมไม่ง่ายนัก เป็นรูปแบบอันหลากหลายของการแสวงหาความสุขของนักเที่ยวชาย ก่อนจบลงแบบแฮปปี้ เอ็นดิ้ง (Happy Ending) นั่นเอง
อย่าลืมนะว่า ใช่ว่าคุณเธอจะยอมรับดีลด้วยกับลูกค้าชายทุกคน แต่พวกเธอจะพิจารณาบุคลิกลักษณะของลูกค้าร่วมด้วย, ไม่รับลูกค้าจนเปรอะ เช่น เธอจะดูหน้าตาหรือร่างกาย ของลูกค้าว่าสะอาดพอหรือไม่ คุณเธอบางคนไม่ชอบคนสกปรก กักขฬะ หยาบคาย หรือขี้เมา ก็ไม่ยอมดีล ไม่เอาด้วยกับคนแบบนี้ แม้ว่า ลูกค้าชายเหล่านั้นจะมีเงินไปเต็มกระเป๋าก็ตาม
ผมถามคุณเธอบางคนที่ทำงานที่ซ่องในเมืองนี้อย่างคนอยากรู้ เธอบอกว่า บางครั้งเธอจงใจตั้งค่าตัวให้สูงมากที่สุดไว้ก่อน เพราะไม่ต้องการนอนกับแขกที่มีกลิ่นตัวแรง แขกบางคนสกปรกมากๆ เธอจะดูผิวพรรณของแขกก่อนว่าสะอาด เช่น เป็นโรคผิวหนังหรือเปล่า แขกที่ไม่พึงประสงค์ดังกล่าว มักจะได้ดีลชาร์จค่าบริการสูงกว่าราคาปกติทั่วไปมาก
เธอเล่าให้ผมฟังด้วยว่า การทำงานในซ่องขึ้นกับอารมณ์เหมือนกัน ไม่ได้เป็นไปด้วยอำนาจเงินอย่างเดียว แต่กระนั้นก็ตามพวกเธอบอกผมว่า แขกส่วนใหญ่ที่ไปเที่ยว มักไม่ค่อยมีปัญหา ส่วนใหญ่เป็นนักเที่ยวจากต่างรัฐที่เดินทางต่อช่วง มาจากเมืองลาสเวกัสเป็นส่วนใหญ่
ในสถานะแห่งการเป็นคนไทยในอเมริกา มีคำถามจากผู้มาเยือนจากเมืองลาสเวกัส คือผมและเพื่อนที่ไปว่า ซ่องที่ปาห์รัมพ์ มีผู้หญิงไทยให้บริการหรือไม่
คำตอบออกมาว่า “เคยมีมาแล้ว” ก่อนหน้านี้ จากถ้อยคำบอกเล่าของโชเฟอร์ขับรถแท็กซี่ที่ไปส่งแขกหรือลูกค้าที่ เชอรี่ แร้นช์ หนึ่งในสองซ่องดังของเมืองปารัมพ์
เมื่อผมและเพื่อนเดินทางไปแวะสำรวจซ่องคราวหลัง เราไม่เจอผู้หญิงไทย พนักงานของซ่องซึ่งเป็นผู้หญิง บอกเราว่า คุณเธอที่ทำงานที่นั่น หมุนเวียนสับเปลี่ยนไม่ซ้ำกัน บ้างก็เดินทางไปทำงานรัฐอื่น หรือหยุดงานเป็นครั้งคราว ไม่เป็นที่แน่นอน
ทั้งนี้ การทำสัญญาทำงานของพวกเธอกับเจ้าของซ่อง เป็นไปในลักษณะ “สัญญาอิสระ” (Independent contractors) ไม่ ผูกมัด ไม่มีประกันสุขภาพ หรือประโยชน์ใดๆ จากซ่องหรือรัฐบาลท้องถิ่น พวกเธอจึงเปลี่ยนที่ทำงานกันค่อนข้างบ่อย ย้ายข้ามรัฐ ข้ามเมืองกันอยู่เนืองๆ
เมื่อพวกเธอกลับมาทำงานในซ่องที่เมืองปาห์รัมพ์ใหม่ จะต้องทำตามกฎหมายว่าด้วยซ่องของเมืองนี้อย่างเคร่งครัด เช่น การตรวจโรค หรือตรวจสุขภาพใหม่ และอาจต้องลงทะเบียนใหม่ กรณีใบอนุญาตหมดอายุตามกฎหมายของเคาน์ตี้
สำหรับพนักงานประจำที่ทำงานแบบปกติในซ่อง อย่างเช่น พนักงานต้อนรับ และแคชเชียร์ เราไม่เห็นมีผู้ชายทำงานที่นั่นเลย ผมตั้งข้อสังเกตกับเพื่อนว่า คงมีผู้ชายทำงานเหมือนกัน อาจเป็นในร้านอาหารของซ่องที่อยู่ด้านในเข้าไป (เราไม่เห็น เพราะเราไม่ได้เข้าไปข้างใน)
อีกอย่างทางซ่องคงไม่ให้คนงานผู้ชายออกมาเพ่นพ่าน เกะกะลูกตาของบรรดาลูกค้าผู้ชายที่บางส่วนนั่งกันอยู่ในห้องล็อบบี้ พวกเขานั่งดื่มกันอยู่ที่บาร์ล็อบบี้ บ้างนั่งที่โซฟารอมาม่าซังเรียกให้คุณเธอทั้งหมดมาดูตัว ให้ลูกค้าเลือกคุณเธอ และเปิดการเจรจาสองต่อสองจนเป็นที่พอใจ ตามรสนิยมของลูกค้าแต่ละคน เมื่อดีลโอเค ลูกค้าจึงสามารถขึ้นห้องกับเธอได้
หรือบางทีลูกค้าบางคนอาจต้องการใช้บริการอื่นของซ่อง อย่างเช่น บริการนวด หรือบริการสปาก็มีเช่นกัน
นาทีตั้งแต่เราสั่นกระดิ่งที่ประตูและเดินเข้าซ่องไป ดูบรรยากาศภายใน จนกระทั่งออกมาจากซ่องทั้งสองแห่งนั้น ผมกับเพื่อนยังสงสัยกันว่า จะมีลูกค้าสักกี่คนกันเชียวที่หลุดออกมาข้างนอก โดยไร้ประสบการณ์….ที่ไม่ลงท้ายด้วย “แฮปปี้ เอ็นดิ้ง”
ยิ่งเป็นตอนนี้ กลิ่นกัญชาคงคลั่กอยู่ข้างในด้วย บรรยากาศนั้นคงสุดเกินบรรยาย….